เตรียมความพร้อมรับมือกับความกังวลเมื่อต้อง Work From Home หลายคนที่ได้กลับไปทำงานที่บ้าน ในช่วงแรกอาจจะไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ แต่เราก็จะต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน บางคนอาจจะชอบบรรยากาศที่มีเพื่อนร่วมงงานชอบทำงานในออฟฟิศเนื่องจากสามารถแบ่งเวลาได้ถูกต้อง แต่บางคนอาจจะชอบทำงานเงียบๆคนเดียว รวมถึงปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้เกิดภาวะเครียดและความกังวล ส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ ลามไปถึงลดทอนคุณภาพของงานและสร้างความลำบากในการใช้ชีวิต
เตรียมความพร้อมรับมือกับความกังวลเมื่อต้อง Work From Home
การรับมือกับความกังวลเมื่อต้อง Work From Home แม้จะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายสำหรับทุกคน เพราะความกังวลนั้นเกิดจากหลายปัญหาทับถมซ้อนกัน เราจึงต้องมองให้ออกว่าต้นตอของปัญหาเกิดจากอะไรแล้วค่อยวางแผนหาวิธีแก้ไข ปัญหาเหล่านั้นจะได้ไม่เกิดซ้ำสอง

1.กำหนดขอบเขตการทำงานกับเพื่อนร่วมงานและองค์กรให้ชัดเจน
ต้นตอของความกังวลก็มาจากเพื่อนร่วมงานหรือองค์กรที่เราทำงาน จากที่เมื่อก่อนเข้างานตามกะเป็นเวลา ตอนนี้ต้องทำงานได้ทุกเวลาตามที่องค์กรต้องการ แน่นอนบางครั้งอาจจำเป็นต้องทำงานนอกเวลาเพราะเป็นงานด่วน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราต้องตื่นตัวพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงขนาดนั้น นี่คือจุดที่สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ คน เพราะต้องคอยเช็กอีเมลหรือข้อความตลอดเวลาว่าจะมีงานเข้ามาเมื่อไหร่ กลายเป็นรบกวนเวลาพักผ่อน ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
เพราะฉะนั้น ทั้งตัวเราและองค์กรจำเป็นต้องกำหนดขอบเขตเวลาการทำงานให้ชัดเจน อาจจะไม่ต้องเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว แต่ต้องมีกรอบหลวม ๆ ในระดับหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ เพราะทุกคนต่างมีเวลาของตนเอง การจะอยู่ร่วมกันได้จำเป็นต้องเคารพเวลาซึ่งกันและกัน หากไม่เคารพเวลาของอีกฝ่ายแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่จะทำงานด้วยกันไปตลอดรอดฝั่งได้
2.อย่ากลัวที่จะปฏิเสธงานหากเราทำงานไม่ไหว
ผลเสียของ Work From Home คือ ภาระงานที่ต้องทำเพิ่มมากกว่าปกติ เนื่องจากการทำงานที่บ้านนั้นมีขอบเขตที่ไม่ตายตัว บางคนเลยเกิดความกังวลว่า ทำงานเท่าเดิมอาจจะดีไม่พอ เพราะตอนนี้เรามีเวลาทำงานมากขึ้น จึงเลือกที่จะรับงานเพิ่มหรือตกปากรับคำทำงานให้คนอื่น ๆ เพื่อกลบความรู้สึกนี้ของตนเอง กลายเป็นเพิ่มภาระให้ร่างกาย เนื่องจากทำงานที่เกินขีดจำกัด
การทำงานที่มีประสิทธิภาพ ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องทำให้เยอะหรือใช้เวลากับมันมากเกินไป เราควรที่จะทำงานให้เสร็จและมีคุณภาพให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ในเวลาที่กำหนด การโหมงานให้คนอื่นมองว่าเราขยันแต่บริหารเวลาไม่เป็นจนเสียสุขภาพไม่ใช่เรื่องดี ถ้าอยากทำงานเยอะ ๆ ต้องจัดสรรเวลาให้เป็นเสียก่อน และอย่ารู้สึกกลัวที่ต้องปฏิเสธงาน ถ้าสุขภาพไม่ดีงานที่ทำก็จะออกมาดีได้ยากเช่นกัน
3.แยกให้ออกระหว่างงานที่ซับซ้อนและงานที่ยุ่งยาก
งานที่ซับซ้อน คือ งานที่ต้องการทักษะเฉพาะด้านในการลงมือทำ ถ้าหากเราไม่มีทักษะตามที่ต้องการก็ต้องทำงานร่วมกับคนที่มีทักษะนั้น หรือไปเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม ซึ่งในสภาวะ Work From Home เช่นนี้ การเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ สำหรับบางคนต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ดังนั้น หากเจองานที่ซับซ้อนเกินความสามารถ อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือเพื่อให้งานสำเร็จ แล้วเรียนรู้ทักษะนั้นไปพร้อมกับทำงานชิ้นนั้น ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานในอนาคต
ขณะที่งานที่ยุ่งยากเพราะวุ่นวายเกินจะจัดการนั้นอาจไม่ได้ต้องการทักษะเฉพาะ แต่เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น งานลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือเกิดเหตุสุดวิสัยจนทำให้งานไม่เสร็จภายในเวลาที่กำหนดแล้วกระทบกับตารางงานของเรา ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามสถานการณ์
ดังนั้นก่อนที่เราจะเกิดความกังวลกันงานนั้น เราควรที่จะเตรียมรับมือกับงานที่อาจจะถาโถมเข้ามา เพื่อที่เราจะได้สะส่างให้ถูกวิธีที่สำคัญเราต้องรับงานมาให้เพียงพอว่าเราสามารถทำได้เสร็จพอดี แล้วงานที่เราทำนั้น จะออกมาดีเองค่ะ
กินเวย์โปรตีน ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ? หนุ่มๆ ทั้งหลายอาจจะมีข้อสงสัยกันในเรื่องของการกินเวย์โปรตีน ยังไงถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉพาะคนที่กำลังออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างมุ่งมั่น ขยันเข้ายิมเป็นประจำ คนเหล่านี้เราเชื่อว่าคุณจะต้องใช้เวย์โปรตีนเป็นตัวช่วยเสริมอย่างเเน่นอน
ข้อดีของการลงทุนระหว่างประเทศมีอะไรบ้าง ? เมื่อกล่าวถึงการลงทุนทางด้านการเงิน สิ่งที่เราจะลงทุนนั้น ล้วนขึ้นอยู่กับโอกาสที่เราจะมองเห็น แต่การที่เราลงทุนระหว่างประเทศก็จะมีข้อที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็คือ รูปแบบการลงทุนทางการเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ตราบใดที่ทราบข้อจำกัดของการลงทุนในครั้งนั้น